... ณ ที่ประทับของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ไม่มีวันไหนเลย ที่ไม่มีเสียงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นที่วังรื่นฤดี กรุงเทพมหานคร, ตำหนักพัชราลัย หัวหิน, ในรถพระที่นั่งเวลาเสด็จไปตามสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่เวลาเสด็จเข้าประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาล
นับจากวันแรกที่ประสูติ เจ้าฟ้าหญิงพระองค์นั้นประสูติมาพร้อมกับเสียงดนตรี ความสำราญพระหฤทัยที่ทรงพอจะหาได้บ้างจากช่วงเวลาวิกฤตทางการเมืองเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ก็อาศัยดนตรีมาปลอบประโลม ยามเสด็จนิราศไปประทับอยู่ไกลปิตุภูมิ มีเวลาที่ทรงเหงาหงอยบ้าง ก็ได้ดนตรีนี่แหละ เป็นงานอดิเรกทำให้ทรงรื่นเริง ครั้นเสด็จนิวัตประเทศไทย ยามใดที่ทรงเหน็ดเหนื่อยจากพระกรณียกิจที่มากหลาย ทรงพักผ่อนหย่อนพระอารมณ์ด้วยดนตรี จนถึงปัจจุบันนี้ ในสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา เมื่อพระอนามัยดำเนินไปตามวงจรของพระโรค ดนตรียังคงเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงน้ำพระทัยให้บันเทิงได้อยู่มิรู้เปลี่ยนแปร
เสียงเปียโนที่ทรงบรรเลง พระสุรเสียงที่ทรงขับร้องเองอย่างแจ่มใส สุ้มเสียงท่วงทำนองเพลงในลีลาและทางเพลงอันหลากหลายจากนักร้องและนักดนตรีทั้งไทยและเทศ ที่แว่วมากระทบพระกรรณ จนเข้าไปสัมผัสพระหฤทัย จึงเป็นความรื่นฤดีที่สดใส ยั่งยืน และถาวรของเจ้าฟ้าหญิงพระองค์นี้
“การดนตรีนั้นเป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อน ที่จะช่วยอบรมขัดเกลาจิตใจของผู้ที่รักในการดนตรี ให้เป็นไปในทางที่ดี รักความดี ความงาม...”
(พระดำรัสของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
พระราชทานในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลแก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ๒๙ ธันวาคม ๒๕๒๕) |